泰国向来以人们的微笑著称,无论是电视里的泰剧明星又或是大街上的泰国老百姓,大家总能看到他们微笑的脸,露出一口洁白整齐的牙齿。然而,翻看上世纪的旧照片,发现那时的泰国人居然甚少有笑容。这到底是为什么呢?今天来跟小编一起探个究竟吧~
ลองไปค้นรูปเก่าๆสมัยรัชกาลที่ 5-6 คนในรูปส่วนใหญ่มักจะไม่ยิ้ม ต่างจากคำพูดที่ว่า “สยามเมืองยิ้ม” เลยสงสัยว่า ทำไมคนสมัยก่อนถึงถ่ายรูปไม่ยิ้ม เราเลยตั้งข้อสงสัยไว้
看回上世纪拉玛五世和拉玛六世的照片,照片里的泰国人大多数都没有笑容,这就奇了个怪了。泰国不是素以“微笑之城”著称吗?为什么那时的人都面无笑容呢?我们因此作出以下猜测:
01
กระบวนการถ่ายใช้เวลานาน สมัยก่อนกระบวนการถ่ายรูปใช้ระยะเวลานาน ต้องเตรียมกล้อง เตรียมไฟ แสง มุม ฉาก องค์ประกอบ กว่าจะกดชัตเตอร์จับภาพ ก็เหนื่อยแล้ว
拍照流程耗时:在旧时代,拍照需要耗费很久时间。从准备相机、电、光,到设定拍摄角度、背景和构图,按下快门之前,人都累趴了!
何况旧时代的照相机看起来神秘又复杂~可能拍上一张照片就要耗费大半天时间呢!
02
ความน่ากลัวของการถ่ายภาพ สมัยนั้นยังมีความเชื่อว่า รูปถ่ายที่ถูกล้างมาแล้ว จะเป็นวิญญาณที่ติดอยู่ในรูปถ่ายนั้น
惧怕拍照:那时候有传言称,拍照后洗出来的照片,灵魂会被摄走进入照片中。
03
สมัยก่อนถ่ายรูปเฉพาะเหตุการณ์ พิธีการ งานสำคัญเท่านั้น ไม่ใช่ถ่ายเล่นเพื่อความบันเทิง ดังนั้นจึงไม่ยิ้มเพื่อให้รูปที่มีความเป็นทางการ
拍照场合:在上世纪,只有正式场合或重要活动才会拍照。并不是像现在这样拍照娱乐,想拍就拍。所以为了拍起来更正式,大家都不会笑。
04
เป็นมารยาท มองว่าการยิ้มต่อหน้ากล้องเป็นกริยาที่ไม่สุภาพ
礼貌:那时的人们认为对着镜头笑是不礼貌的。
现在一想起来,对比起咱中国旧时代的老照片,好像也有些异曲同工之妙!可能以前大家都对照相机这个新玩意儿带着好奇又害怕的心情,因此也很难像现在那样笑开怀。加上旧时迷信一说,也颇能理解为什么人们不笑了。
|